HOW TO STEP UP YOUR GAME: เริ่มใส่สูทอย่างไรไม่ให้เขิน
การเริ่มใส่สูทสำหรับหลายๆท่านอาจจะรู้สึกว่ามีเป็นทางการมากเกินไปหรือรู้สึกไม่ชิน ดังนั้นการค่อยๆปรับจูนตัวเองโดยเริ่มจากการใส่เครื่องแต่งกายไล่ตามระดับความเป็นทางการจาก Casual ไปถึง Formal จะช่วยให้เราไม่รู้สึกเขินเวลาใส่สูท โดยเครื่องแต่งกายในแต่ระดับอาจจะซ้อนทับกันได้บ้างขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าและคัตติ้ง และทั้งหมดนี้ผมจะอิงจากบริบทในบ้านเมืองเรานะครับ
Overshirt หรือ “เสื้อเชิ้ตตัวนอก”
มีลักษณะการตัดเย็บที่ให้ความรู้สึกว่าคล้ายคลึงกับเสื้อเชิ้ตและผ้าที่ใช้ในการตัดมักจะเป็นผ้าเดียวกันกับเสื้อเชิ้ตหรือมีน้ำหนักและความหนาที่มากกว่า ซึ่งสไตล์ของ Overshirt ก็จะมีความความยิบย่อยตั้งแต่ Casual ที่สุด เช่น Overshirt ที่คัตติ้งเป็นเสื้อเชิ้ตเลยแล้วเอามาคลุมตอนใส่กับเสื้อยืด ไปจนถึง Casual น้อยลงมาหน่อยเช่น Overshirt ที่ใช้ผ้าในลักษณะเดียวกันกับผ้าที่ใช้ในการตัด Unconstructed Jacket ซึ่งจะมีความหนา น้ำหนักมากกว่า ทิ้งตัวดีกว่า และ Texture ที่ต่างกับผ้าเสื้อเชิ้ตชัดเจน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Overshirt จะให้ลุคที่ดูสบายๆและใส่ง่ายจากความที่เป็น Outerwear ที่ Casual ที่สุด
Casual Jacket
หรือแจ็คเก็ตตัวนอกต่างๆที่สามารถใส่คลุมทับกับเสื้อเชิ้ตได้ เช่น แจ็คเก็ต Denim แจ็คเก็ตทหาร แจ็คเก็ต Safari เป็นต้น แจ็คเก็ตเหล่านี้ยังให้ความ Casual ที่ค่อนข้างเยอะแต่ไม่ได้ชิลจนให้ความรู้สึกว่าเรากำลังเที่ยวอยู่ริมทะเลเหมือน Overshirt ซึ่งระดับของความ Casual ของ Jacket ในหมวดนี้จะขึ้นอยู่กับคัตติ้งและชนิดของผ้าเป็นหลัก เช่น แจ็คเก็ตยีนส์จะให้ความ Casual จากธรรมชาติของผ้ายีนส์ที่ Casual อยู่แล้ว ในขณะที่แจ็คเก็ต Safari อย่างเช่น Ascot Chang Safari Jacket สามารถนำมาปรับระดับความ Dress Down หรือ Up ได้จากคัตติ้งที่เนี้ยบกว่าและใช้ผ้าลินินที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก เป็นต้น
ก่อนที่จะซื้อ Casual Jacket สักตัว ผมอยากให้พิจารณาสามปัจจัยหลักนั่นก็คือ “เราจะเอาไปใส่ในโอกาสอะไรบ้าง” “คัตติ้งเป็นแบบไหน” และ “ผ้าชนิดอะไร” เพราะสามปัจจัยนี้จะส่งผลต่อความหลากหลายในการใส่ตามโอกาสต่างๆและความง่ายในการ Match ลุคมากๆครับ และบางคัตติ้งของ Casual Jacket จะมีความหลากหลายจนเหลื่อมกับระดับของความ Casual/ Formal ของ Unconstructed Jacket ได้ครับ
Unconstructed Single & Double Breasted Jacket
หากมองเผินๆอาจจะแยกแจ็คเก็ตในหมวดนี้ไม่ออกจาก Single/ Double Breasted Jacket ปกติทั่วๆไปเพราะลักษณะภายของแจ็คเก็ตเหล่านี้จะคล้ายคลึงกัน แต่ด้วยความที่แจ็คเก็ตในกลุ่มนี้ไม่มีการเสริม Canvas หรือ Padding ใดๆเลย เมื่อใส่ออกมาแล้วจึงจะไม่ได้ให้ความเนี้ยบเท่ากับอีกกลุ่ม แต่ด้วยคัตติ้งที่คล้ายกันทำให้แจ็ตเก็ตกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ใส่ง่ายและหลากหลายมากในกลุ่มของ Smart Casual ไปจนถึง Business Casual และที่สำคัญใส่แล้วไม่ร้อน เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรามากครับ
Single & Double Breasted Jacket
แจ็คเก็ตในหมวดนี้จะเริ่มให้ระดับความ Formal ที่อยู่ในระดับของ Business Casual แต่จะไม่ถึงกับเป็น Business Attire เพราะว่า Jacket ตัวนี้ยังต้องนำไปจับคู่กับ Odd Trouser หรือกางเกงที่มีเนื้อผ้าไม่เหมือนกับผ้าที่เอาไปตัดแจ็คเก็ต จึงทำให้ระดับของความเป็นทางการยังไม่ได้สูงถึงนำไปใช้แบบ Business Attire ได้แบบเต็มปาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวาระและโอกาสด้วยครับ เช่น การใส่ Jacket สี Navy Blue คู่กับกางเกงสี Dark Grey ก็อาจใช้ทดแทนกันกับสูทได้ในบางโอกาส
มีบางท่านอาจสงสัยว่า หากนำ Jacket มาใส่คู่กับกางเกงสีเดียวกันถึงแม้ผ้าของกางเกงกับแจ็คเก็ตจะต่างกัน จะเรียกว่าชุดสูท หรือเอามาใส่แทนกันพอแก้ขัดได้มั้ย ผมขออนุญาตแนะนำตรงๆว่า "อย่าเลยดีกว่า" ครับ เพราะใส่ออกมาแล้วจะดูแปลกมาก เนื่องด้วยผ้าที่ต่างชนิด ต่างโรงทอกัน และสีที่ถึงแม้เราจะหามาได้ใกล้เคียงกันขนาดไหน เมื่อใส่ออกมาจริงๆแล้วจะดูออกชัดมากครับว่าแจ็คเก็ตที่ใส่กับกางเกงไม่ใช่สูทที่ตัดมาจากผ้าและสีเดียวกัน แต่เราพยายามเอามาใส่ให้เหมือนกับว่ามันเป็นสูทอยู่เสียมากกว่า
แทนที่จะพยายามหากางเกงที่สีใกล้กันกับแจ็คเก็ตมาใส่เพื่อใช้แทนเป็นสูท การหาคู่สีที่ต่างกันของกางเกงที่เข้ากันกับแจ็คเก็ตจะทำให้ลุคสุดท้ายออกมาดูดีกว่าเยอะเลยครับ
Suit
เป็นมาตรฐานของชุดที่ให้ระดับความเป็นทางการอยู่ที่ Business Attire แต่ก็สามารถตกมาอยู่ในระดับของ Business Casual ได้ขึ้นอยู่กับ “เนื้อผ้า” ที่เลือกเป็นสำคัญ หากเราเลือกผ้าเป็น Linen ก็จะค่อนมาตกอยู่ในหมวด Business Casual แต่หากเลือกผ้า Wool เนี้ยบๆก็จะไปตกอยู่ในหมวด Business Attire ครับ
Suit จัดว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่สุภาพบุรุษทุกท่านควรมีติดตู้เสื้อผ้าไว้อย่างน้อย 1 ชุด ไม่ว่าจะเป็นสี Navy Blue, Dark Grey หรือ Mid Grey เพราะเป็นเครื่องแต่งกายที่สามารถหยิบไปใช้ในโอกาสหรือสวาระสำคัญต่างๆได้อยู่เสมอ เช่น คุยงานกับลูกค้า หรือไปร่วมงานตามวาระ เช่น งานแต่งงานหรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ