สูทสีน้ำตาลใส่ยากจริงๆรึเปล่า - ทำไมเราถึง “กลัว” สูทสีน้ำตาลกัน?
สีน้ำตาลไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลโทนอ่อนหรือโทนเข้มก็ตาม จัดเป็นหนึ่งในสี Earth Tone ที่สามารถใส่ได้ง่ายและหลากหลายไม่ต่างกับสีเทาหรือสีกรมท่าเลยแม้แต่น้อย
แต่แปลกมั้ยครับว่าทำไมในบ้านเราสีนี้เป็นสีที่มักจะไม่ค่อยมีคนนิยมเลือกไปตัดใส่เป็นสูทสักเท่าไหร่
หากเราย้อนกลับไปถึงประวัติศาสตร์ที่มากันสักหน่อย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เราจะพบว่าสีเทาและโทนสีเข้มทั้งหลายจะถูกเรียกว่า “Town Wear” หรือพูดกันบ้านๆคือสีของคนเมือง ดังนั้นในภาพยนต์ย้อนยุคที่เป็นการถ่ายในเมืองอย่างลอนดอน เราจะพบแต่สูทหรือโค้ทสีเทาเข้มหรือดำและต้องปิดด้วยรองเท้าหนังสีดำในพนักงานบริษัท ข้าราชการ นักการเมือง หรือจะใช้ในโอกาสที่จะใส่ไปโรงหนัง ออกไปงานสังสรรค์ต่างๆ แม้กระทั่งไปบ่อนการพนัน สาเหตุที่ต้องใส่สีโทนเข้มและมืดก็เพราะเป็นสีที่ให้ความรู้สึกจริงจัง ขึงขัง น่าเชื่อถือ และดูเป็นงานเป็นการ ดังนั้นสีโทนเข้มโดยเฉพาะสีเทาเข้มหรือสีดำจึงเป็นสีที่ได้รับความนิยมและกลายเป็นสีที่ใช้ต่อๆกันเรื่อยมาสำหรับใช้ในการไปงานหรือสถานที่ที่ต้องการความเป็นทางการสูง
ขณะที่หากเป็นโซนชานเมืองออกมาหน่อย เราจะเริ่มพบกับสูทสีน้ำตาล รวมไปถึงเครื่องแต่งกายที่เริ่มมีสีสันมากขึ้น เช่น สีเบจหรือสีเขียว รวมไปถึงอรองเท้า “สีน้ำตาล” ที่ตอนนั้นเป็นที่ต้องห้ามในการใส่คู่กับสูทสีดำหรือทาเข้ม มีหลากหลายเหตุผลที่คนในชานเมืองหรือชนบทในประเทศอังกฤษสมัยก่อนจึงใส่สีน้ำตาลกัน บ้างก็ว่าการขี่ม้าแถบชานเมืองมีโอกาสที่สูทจะเปื้อนเศษโคลนที่กระเด็นมาติดง่ายกว่าในตัวเมือง หรือเป็นสีที่นำไปใช้กับกิจกรรมต่างๆที่คนแถบชานเมืองชอบทำกัน คือ ล่าสัตว์หรือเข้าป่า เค้าเลยเลือกใส่สี้น้ำตาลที่ดูเปื้อนยากกว่าสีเทาเข้ม
ฉะนั้นสูทสีน้ำตาลจึงป็นสูทที่ผู้คนใส่เมื่อเดินทางออกมาจากตัวเมืองเพื่อกลับบ้านหรือเดินทางออกไปที่ชนบทเท่านั้น ทำให้สีน้ำตาลกลายเป็นสีที่ถูกเรียกว่า “Country Wear” เกิดเป็นประโยค “No Brown In Town” ขึ้นมา จากความเชื่อที่ว่า สีน้ำตาลเป็นสีของคนชนบทที่ให้ความเป็นทางการไม่สูงเท่ากับสีเทาเข้มหรือดำที่เป็นสีของคนเมือง
จากประวัติศาสตร์แล้ว เรื่องสีของสูทเป็นหนึ่งในตัวที่ใช้ในการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมรูปแบบหนึ่งไป สีเข้มคือสีสำหรับคนเมืองหรือคนที่มีฐานะ ขณะที่สีนำ้ตาลกลายเป็นสีของคนแถบชานเมือง แต่ทั้งนี้ทั้งในบ้านเราไม่ได้มีประวัติศาสตร์อะไรที่เกี่ยวข้องกับตรงนี้เลย
ในยุคปัจจุบันนี้แล้ว การที่เราจะยกเอาแนวคิดในสมัยก่อนมาใช้ก็คงจะไม่ใช่เรื่อง อีกมุมมองหนึ่งหลายๆคนอาจจะคิดว่าสูทสีน้ำตาลดูเป็นสีที่ไม่เป็นทางการเท่ากับสีเทาเข้มหรือสีกรมท่า หรือสีน้ำตาลเป็นสีที่ดูฉูดฉาดเกินไป ทำให้ดู Casual มากกว่า แต่สาเหตุหลักๆเป็นเพราะ “ก็ไม่ค่อยมีคนตัดสูทสีน้ำตาลใส่ ถ้าเราตัดไปใส่แล้วมันจะดูเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่นรึเปล่า”
สีน้ำตาลก็ไม่แตกต่างกับสีกรมท่าหรือสีเทาเข้มเลยครับ เพราะมีเฉดสีและลักษณะของผ้าให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่สีน้ำตาลเข้มที่เข้มมากจนอาจดูคล้ายคลึงกับสีเทาเข้มที่ติดเฉดน้ำตาล ไล่ความสว่างขึ้นมาเรื่อยๆถึงสีน้ำตาลเข้มปกติ สีน้ำตาล สีน้ำตาลอ่อน ไปถึงสีเบจและครีม โดยในแต่ละเฉดสีน้ำตาลก็จะมีหลายซับโทน เช่น สีน้ำตาลติดแดง สีน้ำตาล Tobacco สีน้ำตาลเทา สีน้ำตาลช็อคโกแลต และอีกมากมาย
หากท่านผู้อ่านอยากตัดสูทสีน้ำตาลที่ต้องนำไปใช้ในงานที่มีความเป็นทางการและไม่ต้องความโดนเด่นของสี การเลือกสีนำตาลเข้มก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีหากเราไม่อยากจะตัดสูทสีกรมท่าหรือสีเทาเข้ม เพราะสีน้ำตาลเข้มนี้หากไม่ได้นำมาวางเทียบกับสีเทาเข้มแบบตัวต่อตัว ดูเผินๆก็จะดูคล้ายสีเทาเข้มแต่ว่าติดเฉดของน้ำตาลที่จะเพิ่มดีเทลของลุคที่ให้ความว้าวมากขึ้น
เสื้อเชิ้ตที่สามารถจะนำมาใส่ได้ก็มีหลากหลายสไตล์และสีตั้งแต่ Spread Collar หรือ Buttin Down เราสามารถ Treat สีน้ำตาลเข้มได้ไม่แตกต่างจากสีกรมท่าเลย รวมถึงรองเท้าที่ไม่ว่าจะเป็น Loafer หรือรองเท้าผูกเชือกทั้งหลาย ก็สามารถนำมา Match เข้ากับลุคได้ทั้งสีดำและสีน้ำตาล
ผมอยากเป็นอีกเสียงหนึ่งที่สนับสนุนฝั่งสีน้ำตาลให้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากโทนสีเข้มทั้งสองสีที่เจอกันเป็นประจำ เพราะนอกจากสีน้ำตาลจะเป็นสีที่ใส่ง่ายแล้ว ยังมีหลากหลายเฉดที่สวยและน่าสนใจไม่แพ้สีเทาหรือกรมท่าเลยครับ