ผมเชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะเคยเห็นรูปของสุภาพบุรุษที่เอาปกเสื้อเชิ้ตหรือปกเสื้อโปโลออกมาทับบนปกของแจ็คเก็ต แทนที่ปกแจ็คเก็ตจะทับอยู่บนปกเสื้อแบบปกติ เค้าทำแบบนี้กันไปทำไม?

การนำปกเสื้อเชิ้ตหรือโปโลออกมาด้านนอกจากเดิมที่สมควรจะอยู่ด้านใน เป็นอีกลูกเล่นหนึ่งของสไตล์ที่ต้องการบ่งบอกถึงความ “Sprezzatura” หรือ “ความไม่ได้ตั้งใจในการแต่งตัว” เปรียบเสมือนกับการไม่ได้สนใจกฎในการแต่งตัวว่าต้องใส่แบบนี้ๆถึงจะเรียกเหมาะสมหรือถูกต้อง การนำปกเสื้อออกมาด้านนอกทับบนปกแจ็คเก็ตนี้เป็นที่นิยมในหมู่ชาวอิตาลี คล้ายๆกับเป็นการบอกคนอื่นว่า “กูจะใส่แบบเนี้ย ใครจะทำไม” ได้ Italian Flare ที่บ่งบอกถึงความสบายๆในวัฒนธรรมของเค้าในอีกรูปแบบหนึ่ง

หากพิจารณาในแง่ของความเป็นทางการ การนำปกเสื้อเชิ้ตออกมาทับปกแจ็คเก็ตถือว่าเป็นการเพิ่มระดับของความ Casual ให้กับลุคนั้นๆค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเราควรจะดูบริบทของงานหรือสถานที่ที่จะไปให้ดีสักนิดหนึ่งก่อนครับ หากเป็นงานที่มีความ Formal แล้วเราจัด Sprezzatura ไปเต็มเหนี่ยว อาจจะโดนมองว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อยได้

มีข้อควรระวังนิดนึงสำหรับท่านที่อยากจะลองสไตล์นี้ อาจจะต้องพิจารณาว่าปกของเสื้อเชิ้ตตัวนั้นจะต้องมีขนาดที่ใหญ่และปกคอสูงพอที่จะออกมาเกยเพื่อบานออกและทิ้งตัวบนปกแจ็คเก็ตได้ ไม่เช่นนั้นพอลองทำจริงๆปกคอด้านหลังมักจะไม่ยอมลงมาปิดบนปกคอแจ็คเก็ตให้ หรือปกเสื้อจะดูย้วยยับเกินไปเพราะไม่ได้แนบติดไปกับปกคอแจ็คเก็ต

หากเป็นเสื้อโปโลก็มักจะต้องมีปกที่หนาหรือแข็งและค่อนข้างเปิดให้บานออกได้มากกว่าปกติสักหน่อยเพื่อให้เกิดการทิ้งตัวได้ ปัจจัยสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือทรงของปกเสื้อโปโลครับ ปกเสื้อโปโลที่เราคุ้นเคยกันปกติจะเป็นปกโปโลที่เป็นปกคล้ายกับเสื้อเชิ้ตซึ่งมักจะทำให้เราไม่สามารถดึงปกเพื่อให้บานออกแล้วอยู่ทรงได้ถึงแม้จะปลดกระดุมแล้วก็ตาม และขนาดของปกที่มักจะไม่ได้ใหญ่มากทำให้เมื่อเราดึงปกคอออกมาแล้ว ตัวปกเสื้อโปโลจะลอยและไม่ทิ้งตัวลงบนปกแจ็คเก็ตให้เราได้