เจ็บไข้ได้ป่วยต้องคิดถึงยาสามัญประจำบ้านแล้วไซร้ หากจะดูแลรักษารองเท้าที่เรารักก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมสรรพ ตามชุด Basic Kit สำหรับ “รองเท้าหนังเรียบ” ที่มีไว้ไม่เสียหาย ดังจะกล่าวต่อไปนี้

🧴Saphir Super Invulner: สเปรย์พ่นเพื่อเคลือบหนังกลับให้กันน้ำ เป็นไอเท็มที่ผมขออนุญาตบอกตรงๆว่า ซื้อมาเถอะครับ เพราะสำคัญมากในการป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าหนังกลับซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่จะทำให้หนังกลับพังเร็วกว่าเวลาอันควร (สเปรย์ในรูปไม่ใช่ Super Invulner นะครับ แต่เป็น Invulner เหมือนกัน)

🖌แปรงหนังกลับ (Suede Brush): จะเป็นแปรงที่มีขนแปรงแข็งกว่าแปรงขนม้า ช่วยในการปัดดึงขนเล็กๆในหนังกลับให้ฟูและเรียบไปในทิศทางเดียวกัน ใช้ในการ Maintenence ปกติหลังจากใช้งานรองเท้า

✏️ยางลบหนังกลับ (Suede Eraser): ในกรณีที่เกิดรอยถลอกลึกหรือเป็นปื้นในระดับที่แปรงยางไม่สามารถแปรงให้กลับมาฟูได้ การใช้ยางลบจะมีความ Invasive มากกว่าแปรงยาง ผมแนะนำตัว Saphir Gommadin ใช้ง่าย Restore กลับมาได้เกือบ 100% ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยถลอก ขนหนังกลับไม่พัง และไม่ทิ้งคราบไว้บนหนังเลย 

👞Shoe Tree: อีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่จะช่วยรักษาสภาพของรองเท้าให้อยู่ทรงหลังใช้งาน โดยเฉพาะรองเท้าหนังกลับที่โดยธรรมชาติของหนังจะยืดและย้วยง่ายกว่าหนังเรียบ ช่วยลดรอยยับของหนัง และช่วยดูดความชื้นจากเหงื่อที่สะสมมาตลอดวัน รองเท้าที่ไม่ได้ใส่ Shoe Tree หนังจะเริ่มย้วย เสียทรง และจะยับโดยที่ Restore กลับมาได้ยากครับ

🪄Shoe Horn: ใช้สำหรับการรองส้นเวลาใส่รองเท้า ช่วยไม่ให้หนังบริเวณส้นรองเท้าหัก ตัวนี้สำคัญมากอีกเช่นกันครับเพราะบริเวณส้นรองเท้านี่เองที่มีการเสริมหนังหลายชั้นให้แข็งเป็นทรงรับกับข้อและส้นเท้า หากไม่ใช้ Shoe Tree บริเวณส้นตรงนี้จะเริ่มกางและบานออกเรื่อยๆ ทำให้รองเท้ามีโอกาสหลุดส้นมากขึ้นโดยเฉพาะรองเท้า Loafer

*บางท่านอาจจะใช้แปรงผสมขนโลหะในการแปรงเพื่อขุดรอยลึก ส่วนตัวผมไม่ถนัดแปรงขนโลหะครับเพราะรุ้สึกว่า Invasive เกินไป

*สำหรับท่านที่ต้องการขจัดคราบฝังลึกที่ใช้วืธีขั้นมาทั้งหมดแล้วยังไม่หาย ผมแนะนำ Saphir Omnidiam แต่หากไม่เคยทำแนะนำให้ไปร้าน Shoe Shine โดยเฉพาะจะดีกว่าครับ