แว่นตาเป็นอีก Accessory ชิ้นหนึ่งที่มีผลกับลุคของเราอย่างมหาศาล ก็เพราะว่ามันวางอยู่ “บนหน้า” ของเราเลยนี่แหละครับ ไม่เหมือนหมวก เนคไท กำไล หรือนาฬิกา ที่กระจายอยู่ตามส่วนต่างๆของตัวเรา

ดังนั้นประโยคที่ว่า “เปลี่ยนแว่นแล้วหน้าเปลี่ยน” เป็นประโยคที่ไม่ผิดจากความจริงเลย

เลือกแว่นสไตล์ไหนดีให้เหมาะกับลุคหรือบุคลิกของเรา เป็นคำตอบที่ผมเชื่อว่าหลายท่านเวลาไปเลือกแว่นหรือลองแว่นที่ร้านจริงๆ พอถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจว่าจะซื้อก็อาจจะยังไม่แน่ใจจริงๆว่ามันจะเข้าลุคกับเราหรือเปล่า ส่วนตัวผม Treat แว่นตาเหมือนกับการลองแจ็คเก็ตเลย คือวันไหนถ้าจะแพลนไปลองแว่น วันนั้นต้องแต่งตัวในสไตล์ที่คิดว่า “มีความเป็นตัวเรา” มากที่สุดเพื่อดูว่าแว่นสไตล์นั้นเหมาะกับ Silhouette โดยรวมของเราหรือไม่

วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการแต่งตัวพร้อมกับการ Match แว่นตา Vintage จากเมืองซาบาเอะ เขตฟุคุอิ ประเทศญี่ปุ่น “True Vintage Revival” หรือ TVR เข้ากับลุคต่างๆ โดยผมยกมาให้ 3 ลุคที่แตกต่างกัน ไล่ตามระดับความเป็นทางการตั้งแต่ลุคแบบ Smart Casual ไป Business Casual และ Business Formal ครับ

ลุคนี้เป็นลุคที่ให้ความลำลองมากที่สุดในทั้งสามลุคนี้เลย ก็เป็นเพราะว่าหากผมไม่ได้สวมแจ็คเก็ตทับปิดลุคลงไป ก็จะเป็นเพียงการใส่เสื้อโปโลแขนสั้นแบบ One Piece Collar สี Beige คู่กับกางเกงผ้า Wool สีเทาอ่อน รองเท้า Penny Loafer หนังกลับสีน้ำตาลเข้ม และปิดด้วยหมวกทรง Fedora สี Tan ออก Taupe คาดน้ำตาล เป็นลุคที่ให้ความ Casual สูงด้วยโทนสีที่ค่อนไปทางโทนสว่างจากเสื้อโปโลและกางเกง จึงเป็น Combination ที่ลงตัวมากๆในการใส่ชิลๆสบายๆในวันหยุด แต่ในสถานการณ์ที่เราจะต้องใส่ไปทำงานหรือไปงานที่มีระดับความเป็นทางการสูงขึ้นอาจจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ แต่เมื่อคลุมแจ็คเก็ตทับลงไปแล้ว ลุคโดยรวมทั้งหมดจะให้ Vibe ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน 

แจ็คเก็ตตัวนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นผ้า Wool แบบ Hopsack หลายๆคนอาจจะคิดว่าแจ็คเก็ตสี Navy Blue หยิบมาใส่ให้ Casual ยากเพราะเป็นสีที่ให้ความเป็นทางการสูง แต่ด้วยเนื้อผ้าที่ทอแบบ Hopsack ที่มี Texture ของผ้าชัดและตัวผ้าไม่เงา บวกกับลายผ้าที่ทอเป็น Prince Of Wales ในรูปแบบที่ Subtle มากๆ คือมองไกลๆแจ็คเก็ตก็จะยังเป็นแจ็คเก็ตสี Navy Blue ตัวหนึ่ง แต่พอเข้ามากใกล้ในระยะเดินผ่านหรือระยะนั่งคุยกัน เราก็จะเริ่มสังเกตเห็ตเนื้อผ้าและลวดลายนี้ได้ เป็นดีเทลที่ค่อนข้างสนุกเลยทีเดียว การหยิบแจ็คเก็ตตัวนี้มาคลุมทับเพื่อปิดลุคจึงเป็นการเพิ่มความซับซ้อนให้กับลุคได้ดีอีกทางหนึ่งเลยครับ

สำหรับแว่นที่ผมเลือกใส่ในลุคนี้จะเป็น TVR รุ่น 502 2021 Edition ทรงแว่นลักษณะนี้เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากในยุค 50s มีเอกลักษณ์ดีไซน์แบบอเมริกันคลาสสิค ด้วยรูปทรงของกรอบแว่นเป็นทรงที่มาช่วย Contrast กับรูปหน้าของผมได้ดี ด้วยทรงที่ไม่ได้กลมมากเกินไปแต่ก็ไม่ได้มีขอบเหลี่ยมที่ชัดเจน จึงเป็นแว่นที่สามารถหยิบมาใส่ได้ง่ายมากที่สุดตัวหนึ่ง

นอกเหนือจากรูปทรงแล้ว จุดเด่นของตัวแว่นอย่างหมุดรูปเพชรด้านหน้าก็มีที่มาจากยุคสมัยนั้นที่อุตสาหกรรมของการทำเพชรในอเมริกาเติบโตเป็นอย่างมาก หมุดบนตัวแว่นจึงเปรียบเสมือนเครื่องบอกกาลเวลาของยุคสมัย 

นอกจากดีไซน์ที่มีประวัติที่มาแล้ว หมุดรูปเพชรด้านหน้ายังทำมาจากวัสดุที่เรียกว่า “SPM”  หรือ Sun Platinum Metal เป็นวัสดุที่มีจุดกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นบ้านเกิดของ True Vintage Revival นี้เอง วัสดุตัวนี้ถูกค้นพบในช่วงปี 1930 ประกอบไปด้วยแร่หลายชนิด อย่างเช่น อัลลอย นิคเกิล โครเมียม เงิน 

คุณสมบัติพิเศษของวัสดุชนิดนี้ก็คือ ทนทานการผุกร่อน สีไม่เปลี่ยน และไม่ทำปฏิกิริยาระคายเคืองต่อผิวหนังมนุษย์ ในส่วนของตัว SPM เองไม่ได้มีส่วนผสมของ Platinum เลยครับ แต่ชื่อนี้มาจากการอ้างอิงคุณสมบัติพิเศษของ SPM ที่เหมือนกับ Platinum คือ ไม่ผุ ไม่ลอก ไม่เป็นสนิม แกะลวดลายได้สวยงามคมชัด เพราะตัวเนื้อวัสดุมีมวลความหนาแน่นสูง และตัวเนื้อวัสดุมีสีเงินเงางาม

ดีเทลที่มีที่มาที่ไปชัดเจนและถูกหยิบยกมาใส่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยตามตัวแว่น เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความวินเทจที่ไปกันได้ดีมากๆกับการแต่งตัวรูปแบบ Classic Look ที่ผมชอบ

นอกจากหมุดรูปเพชรด้านหน้าแล้ว ยังมาพร้อมกับบานพับแบบ 7 barrel ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของตัวแว่น และสะพานรูกุญแจที่เป็นเอกลักษณ์

Total Look ชุดแรก

แว่นตา TVR 502 2021 Edition

เสื้อโปโล Gran Sasso แบบ One Piece Collar สี Beige

แจ็คเก็ตผ้า Wool จาก Fox Brothers ลาย Prince of Wales Check สี Navy Blue

กางเกง Bespoke โดย The Primary Haus ผ้า Drapers 4-Ply สีเทาเบจ

รองเท้า Edward Green Penny Loafer Suede สีน้ำตาล

หมวก Fedora สี Tan

ผมต้องสารภาพก่อนว่าลุคนี้เป็นลุคที่ผมชอบมากที่สุดจากทั้งหมดสามลุค เพราะส่วนตัวผมชอบแจ็คเก็ตที่มีสีสันและ Texture ชัดเจน แรง และเสียงดัง เครื่องแต่งกายที่เหลือจะเป็นการนำสีบนตัวแจ็คเก็ตมาแตกย่อยเพื่อหาคู่สีที่ไปกันได้ จะเห็นเลยครับว่าแจ็คเก็ตตัวนี้มีสีค่อนข้างเยอะ ได้แก่ สี Burgundy สีแดง สีครีม และสีฟ้าอ่อน หากท่านผู้อ่านสังเกตดีๆจะเห็นว่าเน้อผ้าบนตัวแจ็คเก็ตทอเป็นลาย Mini Houndstooth ด้วย คู่สีเหล่านี้บนตัวแจ็คเก็ตจะถูกดึงไปเพื่อหาสีและลวดลายที่เหมาะสมสำหรับเสื้อเชิ้ต กางเกง หมวก รองเท้า และแว่นตา แล้วประกอบออกมาเป็นลุคที่สมบูรณ์

เมื่อหยิบแจ็คเก็ตตัวนี้ออกมา กางเกงตัวที่ผมนึกถึงเป็นตัวแรกคือ กางเกงผ้า Wool สี Beige เพราะรับกับโทนสีครีมของแจ็คเก็ตได้ดี เสื้อเชิ้ต Spread Collar ที่เป็นลาย Stripe สีน้ำตาลจึงตามมา สีน้ำตาลคู่กับสีเบจเป็นหนึ่งใน Tonal Gradient ที่ผมชอบมากๆ เพราะเป็นการไล่โทนที่ให้ความรู้สึกถึง Countryside Vibe แบบในสมัยก่อน จากนั้นจึงจบด้วยรองเท้า Loafer สีน้ำตาลเข้มแบบ Tassel Loafer และหมวก Fedora สีน้ำตาลคาด Burgundy

จะเห็นว่าสีในลุคนี้ผมหยิบโทนสีครีมของแจ็คเก็ตมาใช้เป็นตัวตั้ง แล้วใช้การไล่ความเข้มของโทนสีเพื่อสร้างลุค โดยกางเกงสี Beige ไปจนถึงลาย Stripe สีน้ำตาลบนเสื้อเชิ้ต และรองเท้าสีน้ำตาลเข้มล้วนเป็นเฉดสีในโทนสีน้ำตาลทั้งสิ้น แต่มีความเข้มสว่างที่แตกตางกันออกไป

ด้วยจริตของลุคนี้ที่จัดจ้านและเฉดสีที่รุนแรง แว่นที่จะต้องมาประกบจึงต้องมีดีเทลที่ชัดเจนอยู่พอตัว ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนสีของแจ็คเก็ตกลบหายไปหมดและจะทำให้หน้าเราดูจืดกว่าเสื้อผ้าที่เราใส่ แว่นที่เหมาะสมมากๆกับลุคนี้คือ TVR “SERIES 3” DIAMOND CUT

สิ่งที่โดดเด่นตั้งแต่แรกเห็นสำหรับแว่นตัวนี้มีอยู่สองอย่าง ข้อแรกคือกรอบ Frame ด้านหน้ามันช่างเซ็กซี่เสียเหลือเกิน ด้วยกรอบรอบนอกที่มีขอบเหลี่ยมมุมและเส้นสายที่ชัดเจน ขณะที่กรอบใส่เลนส์เป็นทรงรีเกือบกลม ทำให้คาแรคเตอร์ของแว่นมีจริตที่ชัดในตัวเอง ดีไซน์ของกรอบแว่นตัวนี้ยึดแนวคิดจากดีไซน์ของแว่นตาจากประเทศฝรั่งเศสในแต่ละยุคกลับมาผลิตขึ้นใหม่อีกครั้ง

แว่นตัวนี้ที่ผมใส่อยู่เป็นสไตล์ที่เรียกว่า “French Crown Panto” มีจุดกำเนิดมาในช่วงปี 1930 การออกแบบทั้งหมดกับแว่นตาทรงนี้ได้ดีไซน์มาจากฝรั่งเศส แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าใดนัก จนนักแสดงภาพยนตร์ชื่อดังชาวอเมริกันอย่าง Gregory Peck ได้นำมาสวมใส่ ทำให้แว่นทรง Crown Panto นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอเมริกา รวมถึงคนดังในยุโรป จึงเกิดการแย่งลิขสิทธิ์กันเกิดขึ้นในเรื่องของต้นแบบ French Crown Panto ในยุคนั้น โดยปัจจุบันทางแบรนด์ TVR ได้นำกลับมาผลิตใหม่ขึ้นอีกครั้งให้เหมือนกับกรอบแว่นตาที่ทางฝรั่งเศสผลิตขึ้นมาครั้งแรก 

นอกจากนั้นเมื่อพิจารณากันที่ขาแว่นที่เป็น Celluloid แบบใส จะเห็นว่าด้านในมีการแกะสลักวัสดุ SPM ชุบทองคำเป็นลวดลายบางอย่าง ซึ่งถ้าเราดูดีๆมันจะเป็นการแกะเป็นลวดลายคลื่นน้ำ เรียกว่า Kanagawa-oki nami ura หรือแปลว่า The Great Wave of Kanagawa ได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันของแต่ละฤดูกาลทั่งสี่ในญี่ปุ่น งานแกะสลักนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะเป็นการ “แกะสลักมือ” โดยช่างชาวญี่ปุ่น หากท่านผู้อ่านเป็นผู้ที่ชอบนาฬิกาอาจจะคิดเหมือนผมว่า มันช่างมี Craftsmanship ที่คล้ายคลึงกับ Grand Seiko ยังไงยังงั้น

คาแรคเตอร์พิเศษอีกอย่างหนึ่งของแว่นตัวนี้คือ ความหนาของกรอบที่หนาถึง 8 mm. ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่จะหาวัสดุ Zylonite ที่มีความหนาขนาดนี้ รวมถึงช่างฝีมือที่สามารถตัดความโค้งและเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์จากต้นแบบของแว่นตาฝรั่งเศสในยุคนั้นได้

Total Look ชุดที่สอง

แว่นตา TVR “SERIES 3” DIAMOND CUT

เสื้อเชิ้ต Spread Collar ลาย Stripe สีน้ำตาล

แจ็คเก็ต Orazio Luciano Double Breasted สี Burgundy ผ้า Cotton-Silk

กางเกง Bespoke โดย The Primary Haus ผ้า Holland & Sherry Crispaire สี Beige

รองเท้า Crockett & Jones Tassel Loafer สี Dark Brown หนังเรียบ

หมวก Fedora สี Dark Brown

มาถึงลุคที่มีความเป็นทางการที่สุด ลุคนี้ผมใช้สูทสี Charcoal เป็นตัวตั้งต้นก่อนที่จะผสมลุคขึ้นมา หนึ่งในตัวเลือกของเสื้อเชิ้ตที่เหมาะสมกับระดับความเป็นทางการที่สูง ก็คงจะไม่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบ Spread Collar และตัวเลือกรองเท้าที่ผุดขึ้นมาในใจผมเป็นอันดับแรกคือ Black Cap Toe Oxford แต่ความพิเศษของ Oxford สีดำคู่นี้คือ บนตัวรองเท้าจะมีการเพิ่มลายฉลุหรือ Brogue อยู่เล็กน้อย (เป็นการฉลุที่เรียกว่า Adelaide) ซึ่งก็เป็นการเพิ่มสีสันและความสนุกเล็กๆน้อยๆให้กับลุคที่มีความเป็นทางการสูง ปิดท้ายด้วยหมวก Fedora สีเทาอ่อนคาดสี Burgundy

จะเห็นว่าความชอบส่วนตัวของผมในการผสมลุคทั้งหมด ผมชอบการไล่โทนสีและความมืดความสว่างที่อยู่ในเฉดสีเดียวกันมากๆ แต่ผมจะผสมให้ Texture ของเครื่องแต่งกายแต่ละชิ้นไม่เหมือนกัน โดย Texture ของสูทเป็นผ้า Wool แบบ High Twist จาก Fox Air ซึ่งจะมีความ Dry และหยาบ มี Finishing ที่ไม่เงา รองเท้าเป็นหนังเรียบสีดำเงา และหมวกเป็น Wool ที่มีความ Fluffy ออกไปทาง Wool Flannel 

แนวคิดการผสมสีของลุคนี้จะคล้ายคลึงกับลุคก่อนหน้านี้ที่ผมใช้สีของแจ็คเก็ตบนตัวตั้ง แต่ในลุคนี้จุดตั้งต้นเป็นสูทสี Charcoal หรือสีเทาเข้ม ตามมาด้วยรองเท้าสีดำ และไล่ไปถึงเฉดเทาอ่อนที่หมวก ซึ่งแถบคาดที่หมวกเป็นสี Burgundy นี้ไปได้ดีกับโทนสีเทามากๆ ทำให้ทั้งลุคไม่ดู Monotone มากเกินไป นอกจากนั้นสี Burgundy ยังไม่ได้มีอยู่ที่หมวกเพียงที่เดียว แต่จะไปปรากฏอยู่ที่สายหนังของนาฬิกาที่เป็นสี Burgundy ที่มืดกว่าด้วย

และมาจบกับแว่นตาที่เหมาะกับลุคนี้ ด้วยความที่ลุคทั้งลุคมีความเป็นทางการสูงและมาในโทนสีเทาแล้ว ดีไซน์ของแว่นที่เหมาะสมกับลุคนี้ แว่นที่มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง มีความ Unique ในตัวแต่ต้องไม่เด่นเกินลุคทั้งหมด ดังนั้นผมจึงไม่ลังเลเลยที่จะหยิบ TVR CORBY มาใส่กับลุคนี้ นอกจากดีไซน์ที่มีความมนให้ความรู้สึกที่ Vintage แล้ว ที่มาที่ไปและดีเทลของแว่นตาตัวนี้ยังไม่ธรรมดาอีกด้วยครับ

CORBY เป็นกรอบแว่นตา Frame France ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแว่นตาของสถาปนิกชาวฝรั่งเศส Le Corbusier (เลอกอร์บูซีเย) กรอบแว่นตาทรงกลมนี้เป็นการแสดงถึงการออกแบบย้อนยุคจากชาวฝรั่งเศส โดยมีตัวกรอบหนาและโค้งมน โดยทางแบรนด์ TVR ได้นำกรอบต้นแบบมาสร้างขึ้นใหม่เพื่อสร้างเป็น Collection พิเศษสำหรับ OBJ เพียง 99 ตัวทั่วโลก นอกจากนี้ทางแบรนด์ได้ทำการแกะสลักลงไปที่ขาแว่นทั้งสองข้าง พร้อมการสร้างหมุดรูปหัวตะปูหกเหลี่ยมแบบโบราณที่เป็นการแสดงถึงแก่นแท้ของการสร้างต้นแบบของแว่นตาญี่ปุ่น

แล้วตา Le Corbusier (เลอกอร์บูซีเย) เป็นใคร?

เลอกอร์บูซีเยเป็นสถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่สร้างงานสถาปัตยกรรม 17 ผลงานไว้เป็นมรดกโลก นอกจากผลงานทางด้านสถาปัตยกรรมแล้ว สไตล์การแต่งกายของ Le Corbusier ยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแว่นตาที่เค้าเลือกใส่เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้เลยในการสร้าง Personal Style

ด้วยเหตุนี้เองทาง OBJ จึงได้นำกรอบแว่นของสถาปนิกระดับโลกอย่าง Le Corbusier มาเป็นต้นแบบของกรอบแว่นรุ่นพิเศษอย่าง CORBY โดยการสร้างกรอบรุ่นนี้ได้สร้างจากแรงบันดาลใจจากร้านบูติกของฝรั่งเศสที่ทาง OBJ ได้พบเห็น โดยเป็นการจำลองเครื่องแบบทหารและชุดทำงานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นความนิยมใหม่ในยุโรปเกิดขึ้น จึงเกิดการสร้างสรรค์ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีระหว่างแว่นตาและชุดบูติกที่โดดเด่นเข้ากันเป็นพิเศษ

Total Look ชุดที่สาม

แว่นตา TVR CORBY (TVR x OBJ x RAINMAKER 2021)

เสื้อเชิ้ต Spread Collar สีขาว Bespoke โดย The Primary Haus

สูทผ้า Fox Brothers ในเล่มผ้า Fox Air สี Charcoals (สีเทาเข้ม)

รองเท้า Saint Crispin’s Black Cap toe Oxford

หมวก Fedora สี Light Grey

*ขอบพระคุณ ร้าน The Primary Haus ซอยสุขุมวิท 36 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำครับ