เสื้อเชิ้ตสั่งตัด: Bespoke Shirt ที่ดีเปลี่ยนลุคของเราได้ขนาดไหน?
ก่อนอื่นผมต้องอธิบายท่านผู้อ่านกันสักนิดว่าบทความนี้จะไม่สมบูรณ์เลยหากผมไม่ตัดสินเสื้อเชิ้ต “ตามสัดส่วนของผมเอง” ดังนั้นบทความนี้จะเป็นการอธิบายความสามาถของ Tailor ในการตีโจทย์ความต้องการของผม และการชดเชยสัดส่วนต่างๆที่ไม่สมมาตรของตัวผมเองเป็นหลักผมจึงขออนุญาตเริ่มจากการอธิบาย “ปัญหาของผมกับเสื้อเชิ้ตพร้อมใส่ที่มักจะเจอ” ทั้งหมดคร่าวๆก่อนครับเพื่อเป็น ReferenceBespoke Shirt จาก The Primary Haus หรืออีกชื่อหนึ่งคือ 1991 Sartorial ที่เป็น Subgroup ใน The Primary Haus เน้นเฉพาะการตัดเสื้อเชิ้ตเพียงอย่างเดียว
การเลือกซื้อเสื้อเชิ้ตสำหรับผม หากเป็นเชิ้ต RTW ที่วางแผนซื้อมาเพื่อใส่กับแจ็คเก็ตหรือสูท จะต้องพิจารณา Fitting ของเสื้อเชิ้ตจาก “การติดกระดุมคอ” เป็นหลักอย่างแรก ด้วยความที่ผมเป็นคนคอใหญ่กว่าคนปกติ ทำให้ผมต้องเพิ่มไซส์จากไซส์เดิมที่ผมใส่แล้วสวยพอดีตัวไป 0.5-1 ไซส์ ดังนั้นเชิ้ตที่ผมได้มามักจะใหญ่โคร่งกว่าปกติ เหลือพื้นที่ระหว่างตัวกับเสื้อเชิ้ตค่อนข้างเยอะ แต่ก็พออยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ปัญหาต่อมาคือเมื่อเพิ่มไซส์เชิ้ต ไหล่มักจะเกือบๆตก หรือตกเลยขอบไหล่ไป โดยจะเป็นที่ฝั่งซ้ายชัดเจนมากกว่าฝั่งขวา เพราะความกว้างไหล่ฝั่งซ้ายของผมสั้นกว่าฝั่งขวาประมาณครึ่งนิ้วSilhouette โดยรวมจากเสื้อเชิ้ต Bespoke ผ้า Canclini
นอกจากนั้น ไซส์ที่ใหญ่ขึ้นมักตามมาด้วยความยาวแขนที่ยาวขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ความยาวแขนเสื้อเชิ้ตมักจะยาวเลยข้อมือผมไป 0.5-1 นิ้ว เมื่อใส่แล้วแขนจะลงไปกองอยู่ที่ต้นฝ่ามือ และแขนฝั่งซ้ายผมก็ยาวกว่าฝั่งขวาประมาณครึ่งนิ้วเช่นกันครับและท้ายที่สุด ผมมีรูปหน้าที่ค่อนข้างกลมและคอยาว ดังนั้นต้องหาลักษณะปกคอเสื้อเชิ้ตที่ไซส์ค่อนข้างใหญ่ ยาว และคอสูงกว่าที่มีขายกันตามท้องตลาดที่ Collar Point มักจะยาวไม่เกิน 3 นิ้วด้วยความที่เสื้อเชิ้ตพร้อมใส่ทั้งหมดจะถูกตัดขึ้นมาให้ทั้งสองฝั่งมีสัดส่วนที่เหมือนกันเป้ะ จึงทำให้สัดส่วนที่ไม่เท่ากันของผมถูกโชว์ออกมาให้เห็นชัดมากครับขนาดปกคอคอเสื้อเชิ้ตแบบ Spread Collar ที่ผมเพิ่มไซส์เป็น 3 3/8” เพื่อให้รับกับรูปทรงใบหน้า และความคลีนของบริเวณช่วงอกที่ไม่มีผ้าเหลือจากความหลวมโคร่ง หรือฟิตตึงจนเกิดเป็นเส้นแนวขวางแต่อย่างใด
ผมพิมพ์ไปก็ปาดเหงื่อไป การหาเสื้อเชิ้ตที่ใส่แล้วสวยสำหรับผมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยส่วนตัวผมชอบเสื้อเชิ้ตที่ให้อารมณ์แบบ Napoli และต้องเป็นสาย Sartorial Classic Menswear ผมจึงตามหา Tailor ที่มี House-Cut เชี่ยวชาญมาในด้านนี้ ก็ได้มาเจอกับ The Primary Haus หลังจากได้พูดคุยกันอยู่หลายครั้ง ผมจึงตัดสินใจสั่งตัดเสื้อเชิ้ต Bespoke เกณฑ์ในการตัดสินอะไรก็ตามที่เป็น Bespoke นั้นไม่ยากเลยครับ นั่นก็คือ เมื่อนำเสื้อเชิ้ต แจ็คเก็ต หรือกางเกงที่สั่งตัดมาใส่แล้ว สัดส่วนที่ไม่สมมาตรต่างๆ หรืออะไรที่ดูผิดแปลกสัดส่วนไปจะถูก Tailor ชดเชยซ่อนไว้ทั้งหมด พูดง่ายๆคือใส่ออกมาแล้วจะดูไม่ออกว่าสัดส่วนทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้กล่าวมาว่ามีอันนู้นสั้นไปนิด อันนั้นยาวไปหน่อยของผมนั้นมีอยู่ และทั้งหมดนี้ก็เป็นโจทย์ที่ Tailor ตีความออกมาให้ได้ครับBespoke Shirt อีกตัวหนึ่งที่ผมเลือกผ้าเป็น Alumo ดูจากรูปเหมือนจะเป็น Slim Fit แต่จริงๆแล้วใส่สบายมากจากการที่เสื้อเชิ้ตถูกตัดให้รับกับสัดส่วนของตัวเราเอง
ทางร้านมีการ Fitting 1 ครั้งก่อนที่จะนำผ้าที่เราสั่งมาตัดเป็นเสื้อเชิ้ตจริงๆโดยขึ้นเสื้อเชิ้ต Mock-Up ขึ้นมา 1 ตัวหลังจากวัดสัดส่วนเราไปแล้ว เพื่อเก็บรายละเอียดผ้าส่วนที่เหลือและผ้าส่วนที่เกิน รวมทั้งเป็นการเช็คฟิตติ้งทั้งหมดเพื่อความชัวร์ครับ ปกเสื้อเชิ้ตผมเลือกไซส์ขนาด 3 3/8” และความสูงของคอเชิ้ตผมเพิ่มขึ้นมาอีก 1/4” ไหล่ที่ไม่เท่ากันถูกชดเชย ความยาวแขนที่เมื่อใส่แล้วแขนยาวเท่ากันทั้งสองข้าง ตัวเชิ้ตมีการคัตสลิมขึ้นให้เข้ากับรูปร่าง ไม่ใช่ Slim Fit ที่นั่งแล้วรู้สึกอึดอัด แต่ใส่แล้วเห็นเป็นสัดส่วนอกและเอวที่สวยงามการเย็บปลอกแขนเสื้อเชิ้ตเข้ากับตัวเชิ้ตโดยการพับจีบแบบ Spalla Camicia ที่ต้องพับแต่ละจีบด้วยมือเท่านั้น
The Primary Haus ตีโจทย์เหล่านี้ได้ทั้งหมด รวมไปถึงสไตล์ Napoli ที่ทำออกมาได้ถูกใจผมเช่นกัน โดยผมเพิ่มออปชั่นการจับจีบที่แขนเสื้อหรือ Spalla Camicia และงานมือตามจุดต่างๆของเสื้อเชิ้ตเข้าไป 80-90% ผ้าเสื้อเชิ้ตก็มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ผ้าของคนไทยอย่าง SC Grand ผ้าญี่ปุ่น ไล่ไปถึงผ้าของ Canclini จากอิตาลี ผ้า Thomas Mason จากฝั่งอังกฤษ ผ้า Alumo จากสวิตเซอร์แลนด์และผ้าตัวเทพอย่าง Carlo Rivaอีกรายละเอียดของการพับจีบปลายแขนเย็บติดเข้ากับ Cuff และความยาวแขนที่พอดีข้อมือ ไม่ลงไปกองที่ฝ่ามือ
รูปทรงของปกเชิ้ตก็มีให้เลือกหลากหลาย และเลือกที่จะเพิ่มลดขนาดได้ตามรูปหน้าของเราทั้งหมด รูปทรงของปกเชิ้ตนี้เป็นส่วนที่ผมให้ความสำคัญอันดับแรกๆว่าควรจะเลือกและเปลี่ยนให้เข้ากับรูปหน้าของเราได้ และที่สำคัญคือปกเสื้อเชิ้ตไม่ใช่ปกอัดกาว ซึ่ง The Primary Haus ก็มีรูปแบบปกคอให้เลือกเยอะสะใจผมมากกระดุมทำมาจาก Mother of Pearl หรือเปลือกหอยทุกเม็ด
จริงๆแล้วที่ร้านมีโปรแกรมทั้ง Ready To Wear, MTO, MTM และ Bespoke ที่ผมเลือกเป็นสั่งตัดตามตัวเรา 100% หนึ่งในข้อดีของการ Bespoke คือเมื่อตัดตัวแรกเสร็จแล้ว เราสามารถสั่งตัวต่อไปได้ทันทีโดยไม่ต้องวัดสัดส่วนใหม่ แค่เพียงเลือกผ้าที่อยากได้แล้วรอผ้ามาขึ้นเป็นเสื้อเชิ้ตเพียงเท่านั้น ณ ปัจจุบันผมได้สั่งเสื้อเชิ้ตกับทาง The Primary Haus ไป 5 ตัวแล้วครับขออนุญาตเรียนท่านผู้อ่านตามตรงว่า ผมไม่ได้มาเขียนอวยทางร้าน หรือทางร้านไม่ได้จ่ายเงินเพื่อให้ผมเขียนบทความแต่อย่างใด ผมเขียนในมุมของลูกค้าคนหนึ่งที่จ่ายเงินซื้อเองทั้งหมดที่เพียงอยากจะแนะนำร้านที่ไว้ใจได้ คุยง่าย และฝีมือดีให้กับท่านผู้อ่านที่มีปัญหากับเสื้อเชิ้ต RTW ทำนองเดียวกับผมได้ไปลองกันครับ
หากท่านผู้อ่านสนใจ สามารถลองสอบถามได้ทางไลน์ @theprimaryhaus หรือเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านได้ทั้งผ่าน Instagram หรือ Facebook ครับผม