Knit Tie: เนคไทที่ถูกลืม

Traditional Knit Tie ปลายตัดตรง

Traditional Knit Tie ปลายตัดตรง

แน่นอนครับว่าหากเราพูดถึงเนคไท คุณสุภาพบุรุษ 99% มักจะนึกถึงเนคไทที่เป็น Stripe หรือ Plain กันไปโดยอัติโนมัติ แต่ก็ไม่แปลกเลยครับเพราะเนคไทที่เรามักจะเจอกันในภาพยนต์หรือเนคไทที่คุณสุภาพบุรุษใส่กันมักเป็นหนึ่งในแบบนี้เสมอ ทำให้เราเข้าใจกันไปว่าเนคไทคือุปกรณ์เสริมที่เอาไว้ใส่กับสูท ใส่สำหรับออกงาน หรือสำหรับผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น
เนคไทที่เป็น Stripe หรือ Block นี้เป็นเพียงหนึ่งในจักรวาลอันมหาศาลของเนคไท แต่น่าเสียดายมากครับถ้าหากประเภทของเนคไทที่เหลือไม่ได้โดนยกออกมาพูดถึงกันสักเท่าไหร่ หนึ่งเนคไทที่ถูกลืมหรือไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคุณสุภาพบุรุษกันเท่าไหร่คือ “Knit Tie”
Knit Tie จัดเป็นหนึ่งในเนคไทนอกกระแสที่เริ่มกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้นในต่างประเทศ แต่เมื่อเทียบกับในประเทศไทยแล้ว หากวันไหนคุณผู้อ่านเลือกใส่ Knit Tie ออกจากบ้าน ผมกล้ารับประกันเลยครับว่า 99% จะไม่ชนและไม่ซ้ำกับใครแน่นอน 
สาเหตุหนึ่งที่ Knit Tie ไม่ค่อยได้รับความนิยม ก็เป็นเพราะในบรรดาเนคไททั้งหมดนั้น Knit TIe เป็นเนคไทที่ Casual มากที่สุดถึงแม้จะทำมาจาก Silk เหมือนกัน หากท่านผู้อ่านสงสัยว่าทำไม ลองนึกถึงเสื้อโปโลซึ่งเป็น Knitwear เหมือนกันที่ให้ความ Casual สูงก็จะประเมินระดับความเป็นทางการได้ดีมากขึ้น และหากสังเกตที่ปลายของ Knit Tie ที่เป็น Traditional ปลายเนคไทจะตัดตรง ไม่ได้เป็นปลายสามเหลี่ยมเหมือนเนคไททั่วไปที่เราคุ้นชิน จึงยิ่งทำให้ Knit Tie มีความ Casual ที่สูงมาก
Knit Tie ปลายสามเหลี่ยม อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากใส่ Knit Tie

Knit Tie ปลายสามเหลี่ยม อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากใส่ Knit Tie

ผมได้มีโอกาสคุยเรื่องนี้กับคุณอาร์ม Americano Taste ว่าทำไม Knit Tie ถึงไม่ค่อยมีคนใส่ในเมืองไทย คุณอาร์มได้ให้คำตอบมาตรงประเด็นมากๆครับ เพราะ Knit Tie เป็นเหมือน “เนคไทใส่เล่น” หรือ “เนคไทสิ้นเปลือง” ซะมากกว่า 

เราลองคิดถึงบริบทของเมืองไทยที่คนไม่ค่อยใส่เนคไทกันสักเท่าไหร่อยู่แล้วดูนะครับว่า ใครบ้างที่จะซื้อเนคไทใส่และซื้อไปใส่ทำไม คำตอบไม่อยู่ไม่กี่ข้อเองครับ คือ แขกร่วมงานซื้อไปใส่ในงานแต่ง หรือเป็นเจ้าบ่าวเสียเองที่ซื้อไปใช้ ซื้อไปใช้ตามวาระของงานที่ต้องไปร่วม และซื้อไปใส่กับสูทตามหน้าที่การงาน จึงไม่แปลกเลยครับที่เวลาเรามาซื้อเนคไทเราจะต้อง Play Safe โดยเลือกสไตล์ของเนคไทที่เราคุ้นชินกันมาตลอด คือ Stripe และ Plain หรือสี Solid
แต่จริงๆแล้ว Knit Tie เป็นเนคไทที่มีความหลากหลายมากเลยครับ ด้วยความที่เป็น Knitwear จึงทำให้เราหยิบมาใส่ได้ง่ายมาก ตั้งแต่ใส่กับเสื้อเชิ้ต OCBD ไปจนถึงใส่กับเสื้อเชิ้ตสีขาว Spread Collar และสูท Charcoal หรือจะจับมา Match กับ Jacket และ Odd Trouser ก็ยิ่งเหมาะสมกัน ด้วยลักษณะเฉพาะของ Knit Tie ที่มี Texture ของผ้าชัดเจนที่สุดในบรรดาเนคไททั้งหมด ทำให้เกิดการสร้าง Contrast ของตัวผ้าแยกกันกับสูทและเสื้อเชิ้ตได้สวย แต่ก็ไม่ได้เยอะจนเกินไป หากเราอยากจะ Sprezzatura ในสไตล์ Casual ไปจนถึง Business Casual เนคไทแบบ Knit Tie ก็ตอบโจทย์ได้ดีมากเช่นกัน 
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของ Knit Tie คือยับยากไปจนถึงไม่ยับเลย หากเนคไทมีรอยยับเราแค่จับเนคไทห้อยทิ้งไว้สักพักหนึ่ง รอยยับทั้งหมดก็จะหายไปเอง
Texture ของ Knit Tie ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้าง Contrast ตัดกันกับเนื้อผ้าของแจ็คเก็ตและเสื้อเชิ้ตให้ไม่ดูกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน

Texture ของ Knit Tie ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้าง Contrast ตัดกันกับเนื้อผ้าของแจ็คเก็ตและเสื้อเชิ้ตให้ไม่ดูกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน

ในปัจจุบัน Knit Tie มี Tailor หลายเจ้าที่ทำมาทั้งแบบ Traditional หรือปลายเนคไทเป็นแบบหัวตัด หรือถักมาแบบปลายสามเหลี่ยมเหมือนเนคไททั่วไป ท่านผู้อ่านสามารถเลือกได้ตามความชอบเลยครับ แต่ Knit Tie ปลายสามเหลี่ยมจะใส่ได้หลากหลายกว่าในบริบทของเมืองไทย ณ​ ปัจจุบัน เพราะว่าทรงดู Casual น้อยกว่าครับ
สิ่งเดียวที่ต้องระวังกันสองข้อสำหรับ Knit Tie คือ ต้องดูระดับความเป็นทางการของงานที่จะไปเมื่อใส่คู่กับสูท หากงานมีความ Formal ที่ Dress Code ต้องการ Business Attire ก็ไม่ควรจะใส่ Knit Tie แต่ควรจะเลือก Printed Silk, Plain หรือ Stripe ที่ Texture ของผ้าน้อยจะเหมาะสมกว่า และหากใส่เนคไทตอนไม่ได้ใส่แจ็คเก็ต อาจต้องระวังเนคไทไปเกี่ยวกับขอบมุมที่แหลมกันนิดนึงครับ เพราะอาจจะไปเกี่ยว Knit Tie ให้ผ้ายุ่ยได้
Previous
Previous

เราให้ความสำคัญกับ “ปกคอเสื้อเชิ้ต” และ “เนคไท” เพียงพอกันรึเปล่า?

Next
Next

Suspender: สายเอี๊ยมมีไว้ทำอะไร?